เครื่องพิมพ์วันผลิตแบบมือถือ เหมาะกับธุรกิจแบบใดในปี 2026?

เครื่องพิมพ์วันผลิตแบบมือถือ เหมาะกับธุรกิจแบบใดในปี 2026?

เครื่องพิมพ์วันผลิตแบบมือถือ คืออะไร และทำไมถึงได้รับความนิยมมากขึ้นในปี 2026

เครื่องพิมพ์วันผลิตแบบมือถือ เหมาะกับธุรกิจแบบใดในปี 2026?
 


ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีของ เครื่องพิมพ์วันผลิตแบบมือถือ (Handheld Date Coding Printer) ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจที่ต้องการความคล่องตัวในการพิมพ์วันผลิต วันหมดอายุ หรือรหัสสินค้า โดยไม่ต้องติดตั้งเครื่องขนาดใหญ่ในสายการผลิต

เครื่องพิมพ์วันผลิตแบบมือถือ เป็นอุปกรณ์ขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก ใช้ระบบหมึกพิมพ์คุณภาพสูง เช่น Inkjet หรือ Thermal Inkjet ซึ่งสามารถพิมพ์ข้อความ ตัวเลข โลโก้ QR Code หรือบาร์โค้ดได้บนวัสดุหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกล่องกระดาษ พลาสติก ฟอยล์ หรือโลหะ

ในปี 2026 ความต้องการใช้งานเครื่องพิมพ์แบบนี้จะยิ่งเพิ่มขึ้น เพราะหลายธุรกิจเริ่มเน้น “การผลิตขนาดยืดหยุ่น” (Flexible Production) มากกว่าการผลิตแบบสายพานขนาดใหญ่แบบเดิม
 

แนวโน้มตลาดของเครื่องพิมพ์วันผลิตแบบมือถือในปี 2026

  1. การเติบโตของธุรกิจขนาดกลางและ SME: ธุรกิจขนาดกลาง–เล็กจำนวนมากเริ่มผลิตสินค้าของตัวเอง เช่น อาหาร เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง หรือผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ซึ่งต้องมีการพิมพ์วันผลิตและวันหมดอายุบนบรรจุภัณฑ์ทุกชิ้น แต่ไม่จำเป็นต้องลงทุนติดตั้งเครื่องใหญ่ในไลน์ผลิต

    เครื่องพิมพ์วันผลิตแบบมือถือจึงตอบโจทย์ เพราะใช้งานง่าย ต้นทุนไม่สูง และไม่ต้องใช้พื้นที่มาก
     
  2. ความเข้มงวดของกฎหมายด้านฉลากสินค้า: มาตรฐานอุตสาหกรรมและกฎหมายใหม่ ๆ ในไทย เช่น มอก. อย. และประกาศของกระทรวงสาธารณสุข กำหนดให้สินค้าทุกประเภทต้องแสดงข้อมูลการผลิตอย่างชัดเจน

    เครื่องพิมพ์มือถือจึงกลายเป็น “เครื่องมือประจำโรงงาน” ที่ช่วยให้ธุรกิจทำได้ถูกต้องตามกฎหมายโดยไม่ต้องพึ่งระบบพิมพ์ขนาดใหญ่
     
  3. การขยายตัวของตลาดออนไลน์และสินค้าพรีเมียม: ผู้ประกอบการที่ขายสินค้าออนไลน์ เช่น OTOP หรือแบรนด์อาหารสุขภาพ ต้องการพิมพ์ข้อมูลเฉพาะรุ่น เช่น “ผลิตล็อตเดือนนี้”, “รหัสสินค้าพิเศษ” ซึ่งเครื่องพิมพ์มือถือสามารถปรับข้อมูลได้รวดเร็วและพิมพ์ได้ทันที
 

ธุรกิจแบบใดที่เหมาะกับเครื่องพิมพ์วันผลิตแบบมือถือในปี 2026

  1. ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม: ไม่ว่าจะเป็นโรงงานซอส โรงงานอาหารแช่แข็ง หรือร้านกาแฟที่บรรจุสินค้าเอง ล้วนต้องพิมพ์วันผลิต/หมดอายุบนบรรจุภัณฑ์ เครื่องพิมพ์มือถือสามารถพิมพ์ได้ทั้งบนขวด กระปุก ซองฟอยล์ หรือกล่อง ทำให้สะดวกต่อการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์โดยไม่ต้องติดตั้งเครื่องใหม่
  2. ธุรกิจเครื่องสำอางและเวชภัณฑ์: เครื่องสำอางและอาหารเสริมส่วนใหญ่ผลิตล็อตเล็ก (Small Batch) และต้องพิมพ์รหัส LOT ที่แตกต่างกันในแต่ละรุ่น เครื่องพิมพ์มือถือช่วยให้พนักงาน QC หรือฝ่ายผลิตสามารถพิมพ์วันผลิตได้ตรงจุดที่ต้องการ โดยไม่ต้องผ่านสายพานหลัก
  3. ธุรกิจโลจิสติกส์และคลังสินค้า: สำหรับคลังสินค้า บริษัทจัดส่ง หรือผู้รับจ้างแพ็กสินค้า การพิมพ์ข้อมูลวันรับของ วันหมดอายุ หรือรหัสบาร์โค้ดบนกล่องถือว่าสำคัญมาก เครื่องพิมพ์มือถือสามารถช่วยให้ทำงานได้รวดเร็วขึ้นโดยไม่ต้องเคลื่อนย้ายสินค้ากลับเข้าไลน์
  4. ธุรกิจบรรจุภัณฑ์และ OEM: โรงงานที่ผลิตสินค้าให้หลายแบรนด์ต้องเปลี่ยนข้อมูลวันผลิตและโลโก้บ่อย ๆ การใช้เครื่องพิมพ์มือถือจึงช่วยให้ทีมงานพิมพ์ข้อมูลได้สะดวกโดยไม่ต้องตั้งโปรแกรมใหม่ทุกครั้ง
  5. ธุรกิจเกษตรแปรรูปและสินค้าเกษตรอินทรีย์: กลุ่มนี้มักมีการบรรจุสินค้าในพื้นที่ต่างจังหวัด เครื่องพิมพ์แบบมือถือที่ใช้แบตเตอรี่ในตัวจึงตอบโจทย์มาก เพราะสามารถนำไปพิมพ์หน้างานได้โดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้าจากระบบหลัก
 

จุดเด่นของเครื่องพิมพ์วันผลิตแบบมือถือที่เหนือกว่าแบบเดิม

  • พกพาได้ทุกที่: ไม่จำกัดพื้นที่การใช้งาน เหมาะกับโรงงานขนาดเล็ก
  • ติดตั้งง่าย: ไม่ต้องใช้โครงสร้างสายพานหรือระบบอัตโนมัติ
  • ลดต้นทุนระยะยาว: ลงทุนครั้งเดียว ใช้ได้หลายจุด
  • รองรับวัสดุหลากหลาย: พิมพ์ได้ทั้งพลาสติก ฟอยล์ โลหะ และกระดาษ
  • ใช้งานง่าย: ตั้งค่าผ่านหน้าจอสัมผัสหรือแอปพลิเคชัน
  • หมึกพิมพ์คุณภาพสูง: แห้งเร็ว ไม่หลุดง่าย แม้ในพื้นที่ชื้น
  • รองรับรหัส QR / บาร์โค้ด / โลโก้: เพิ่มความเป็นมืออาชีพให้กับบรรจุภัณฑ์
 

ข้อควรระวังในการเลือกซื้อเครื่องพิมพ์วันผลิตแบบมือถือ

ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้ให้รอบคอบ

  • ประเภทหมึก: หมึกที่เหมาะกับวัสดุของคุณ (เช่น หมึก Water-based, Solvent-based, UV ink)
  • ขนาดพื้นที่พิมพ์: ตรวจสอบว่าพิมพ์ได้กี่บรรทัดและขนาดตัวอักษรสูงสุด
  • อายุการใช้งานของแบตเตอรี่: เลือกรุ่นที่ใช้งานต่อเนื่องได้อย่างน้อย 4–6 ชั่วโมง
  • ระบบควบคุม: บางรุ่นมีหน้าจอสัมผัส / Wi-Fi / เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้
  • บริการหลังการขาย: เลือกตัวแทนจำหน่ายที่มีอะไหล่และช่างในประเทศ เช่น iMark
     

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเครื่องพิมพ์วันผลิตแบบมือถือ

Q1: เครื่องพิมพ์วันผลิตแบบมือถือใช้กับพื้นผิวประเภทใดได้บ้าง?
A: ใช้ได้กับวัสดุหลากหลาย เช่น กระดาษ พลาสติก โลหะ ฟอยล์ และไม้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทหมึกที่เลือกใช้


Q2: ต้องต่อไฟตลอดเวลาหรือไม่?
A: ไม่จำเป็น รุ่นใหม่ของ iMark ใช้แบตเตอรี่ในตัว สามารถพิมพ์ได้ต่อเนื่อง 5–6 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง


Q3: หมึกพิมพ์แห้งช้าหรือไม่?
A: หมึกคุณภาพสูงของเครื่องพิมพ์ iMark แห้งภายในไม่กี่วินาที และไม่หลุดง่ายแม้ในสภาพอากาศชื้น


Q4: ต้องการพิมพ์โลโก้แบรนด์หรือ QR Code ทำได้ไหม?
A: ได้แน่นอน เครื่องพิมพ์มือถือรุ่นใหม่สามารถพิมพ์ภาพ โลโก้ QR และบาร์โค้ดได้ในตัวเดียว


Q5: เครื่องพิมพ์วันผลิตแบบมือถือเหมาะกับการพิมพ์จำนวนมากไหม?
A: เหมาะกับการพิมพ์ระดับกลาง–น้อย เช่น 500–5,000 ชิ้นต่อวัน หากต้องการพิมพ์จำนวนมากต่อเนื่องควรใช้เครื่องแบบติดตั้งในไลน์ผลิตแทน


 

เครื่องพิมพ์วันผลิตแบบมือถือ โซลูชันแห่งอนาคตของธุรกิจไทย

ปี 2026 จะเป็นยุคที่ธุรกิจต้องปรับตัวให้คล่องตัวและลดต้นทุนในทุกขั้นตอนการผลิต
เครื่องพิมพ์วันผลิตแบบมือถือ จึงกลายเป็นทางออกที่คุ้มค่า ใช้งานง่าย และรองรับการผลิตที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว

ไม่ว่าคุณจะเป็นโรงงานอาหาร เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ หรือ SME ที่ต้องการระบบพิมพ์วันผลิตที่ “ประหยัด ติดตั้งง่าย ใช้งานได้จริง” 

 


 

ติดต่อทีมงาน iMark วันนี้ เพื่อรับคำแนะนำฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

สนใจเครื่องพิมพ์วันหมดอายุ , เครื่องพิมพ์วันที่อิงค์เจ็ท , Continuous Inkjet , สายพานลำเลียงสแตนเลส

โทร : 094-2246365 Email : info@imark.co.th Line official : @imark
 

Share this post :


widget